โรคภูมิแพ้ในเด็ก

โรคภูมิแพ้ในเด็ก

โรคภูมิแพ้ในเด็กในปัจจุบันนี้มีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ  สาเหตุมีด้วยกันหลายสาเหตุ  ทั้งจากสภาพแวดล้อม  อาหารการกิน  และพันธุกรรมจากพ่อและแม่  ซึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดการแพ้ที่สำคัญและแก้ไขได้ยากก็คือพันธุกรรมจากพ่อและแม่นั่นเอง  เมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์และคลอดลูกน้อยออกมา  ลูกจะยังไม่มีภูมิคุ้มกันของตัวเองจะต้องอาศัยภูมิคุ้มกันที่ได้จากแม่ก่อนในช่วงอาทิตย์แรก  ซึ่งถ้าลูกน้อยได้ทานนมแม่ตั้งแต่แรกเกิดก็จะทำให้มีภูมิต้านทานจากแม่ช่วยอยู่ก่อนที่ภูมิคุ้มกันนี้จะหายไปและลูกน้อยสามารถสร้างภูมิคุ้มกันของตัวเองขึ้นมาแทนได้  แต่ถ้าคุณแม่ท่านไหนไม่ได้ให้ลูกกินนมตัวเอง  ลูกมักจะเป็นโรคภูมิแพ้ได้ง่าย  ซึ่งจะส่งผลต่อสุขภาพ  การเจริญเติบโตของเด็กในอนาคต  คุณพ่อคุณแม่ควรมีความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับอาการของโรคภูมิแพ้ไว้  เพื่อจะได้พาลูกไปหาคุณหมอให้รักษาได้ทันท่วงที

                โรคภูมิแพ้อยู่ในกลุ่มของโรคที่เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำปฏิกิริยาไวเกินไปต่อสารที่มีอยู่ในธรรมชาติ  หรือก็คือ  ร่างกายมองเห็นว่าสารที่มีอยู่ในธรรมชาตินั้นเป็นสารพิษและเป็นศัตรูของร่างกาย  ดังนั้นเมื่อร่างกายไปสัมผัสกับสารต่างๆในธรรมชาติจึงทำให้เกิดการแพ้ขึ้นได้  ถ้าโชคดีก็อาจจะแพ้ไม่มากนัก  แต่บางคนก็สามารถเกิดการแพ้อย่างรุนแรงขึ้นได้  โรคที่เราจัดให้อยู่ในกลุ่มโรคภูมิแพ้  ได้แก่  โรคจมูกอักเสบหรือโรคแพ้อากาศ  โรคหืด  โรคเยื่อบุตาอักเสบ  และโรคลมพิษ  ซึ่งโรคที่มักพบผู้ป่วยมากที่สุดก็คือ  โรคจมูกอักเสบหรือโรคแพ้อากาศนั่นเอง 

                สาเหตุของโรคภูมิแพ้หลักๆเกิดมาจาก  2  ปัจจัยคือ  พันธุกรรมและสิ่งแวดล้อม  ถึงแม้พ่อกับแม่จะไม่เป็นโรคภูมิแพ้แต่ทารกน้อยทุกคนก็มีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคภูมิแพ้ได้ถึง 15% เลยทีเดียว  จากการศึกษาของผู้เชี่ยวชาญทางด้านกุมารแพทย์พบว่า  วิธีป้องกันโรคภูมิแพ้ในเด็กที่ได้ผลดีที่สุด  ก็คือ  นมแม่นั่นเอง  การที่คุณแม่ให้ลูกกินนมแม่อย่างน้อยๆ 6 เดือนแรก  แทนที่จะให้ลูกน้อยทานนมผง  นมกระป๋องหรือนมวัว  จะช่วยให้ลูกไม่เสี่ยงต่อการได้รับโปรตีนแปลกปลอมในนมวัวหรือนมสำเร็จรูปได้  นอกจากนี้แล้วนมแม่ยังช่วยเรื่องการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกายลูกน้อยได้อีกด้วย  จากการวิจัยพบว่าในน้ำนมแม่นั้นมีสารบางอย่างที่เป็นตัวกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดขาวของลูกน้อยให้สร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาปกป้องเยื่อบุต่างๆในร่างกาย  ไม่ให้มีสิ่งแปลกปลอมผ่านเข้ามาง่ายๆ  เมื่อสิ่งแปลกปลอมผ่านเข้ามาไม่ได้จึงมีตัวที่จะไปกระตุ้นให้เกิดอาการแพ้ได้ยากขึ้นนั่นเอง