อาการขาบวม เท้าบวม ปวดขา ของคนท้อง
ผู้หญิงเราเมื่อตั้งครรภ์ก็มักจะเกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับอาการต่างๆที่ต้องพบเจอ
บางคนก็กลัวว่าอาการต่างๆที่เกิดขึ้นนี้จะมีผลกระทบต่อลูกรึเปล่า จริงๆแล้วมันเป็นอาการ
ที่เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ คุณแม่เพียงแค่คอยสังเกตดูว่ามันมีอาการอื่นแทรกซ้อนเพิ่มขึ้น
มาหรือไม่ อย่างเช่น เมื่อตั้งครรภ์ช่วง 1-3 เดือนแรก ก็ควรจะมีอาการแพ้ท้อง แต่ถ้าคุณ
แม่คนไหนไม่มีอาการเลยก็ถือว่าโชคดีให้คุณแม่คิดในทางบวกว่าดีแล้วที่เราไม่แพ้ท้อง แต่
ถ้าคนไหนแพ้ท้องมากๆ คุณแม่ก็ควรปรึกษาคุณหมอตัวคุณแม่จะได้สบายใจจิตใจไม่
หม่นหมอง ลุกในท้องก็จะไม่เครียดไปด้วย ในช่วงที่อายุครรภ์ 4-6 เดือนมักจะเป็นช่วงที่
สบายที่สุดของคุณแม่ เพราะไม่ต้องกังวลเรื่องแพ้ท้อง แถมขนาดท้องก็ยังไม่ใหญ่มาก
ยังไปไหนมาไหนได้สะดวกคล่องตัวอยู่ แต่เมื่ออายุครรภ์เข้าสู่ช่วงท้ายๆของการตั้งครรภ์
ก็จะเริ่มมีอาการนอนไม่ค่อยหลับ ปวดปัสสาวะบ่อยเหมือนช่วง 1-3 เดือนแรกอีกครั้งหนึ่ง
และเมื่อใกล้จะคลอดคุณแม่บางท่านมักจะมีอาการเท้าบวมปวดขาเกิดขึ้นได้
อาการเท้าบวมของคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ในไตรมาสสุดท้าย
อาการเท้าบวมปวดขาถือเป็นอาการปกติของคนท้องที่เข้าสู่ช่วงตั้งครรภ์ในไตรมาสที่ 3
(ช่วง 7-9 เดือน) ถ้าไม่มีอาการแทรกซ้อนอื่นๆร่วมด้วย เท้าบวมในคนท้องเกิดจากมดลูกที่
มีขนาดโตขึ้นไปกดทับเส้นเลือดดำที่จะไหลกลับเข้าสู่หัวใจ ทำให้เลือดไหลกลับได้น้อยลง
และเกิดการคลั่งค้างอยู่ที่ปลายเท้าและช่วงขา ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติของคนท้องที่สามารถ
เกิดอาการบวมของขาได้หากนั่งทำงานแบบห้อยขานานๆหรือต้องทำงานที่ได้ยืนหรือเดิน
เป็นเวลานานเท้าก็จะบวมได้ แต่ก็มีเหมือนกันที่อาการบวมเกิดจากการที่คุณแม่เป็นเบา
หวานขณะตั้งครรภ์ก็จะสามารถเกิดการบวมตามแขน ขา ใบหน้า และลำตัวได้ บางคน
ถ้ามีอาการบวมร่วมกับปวดหัว ตาพร่ามัว คลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วย ต้องรีบไปพบแพทย์
โดยด่วนเพราะอาการบวมนี้อาจเกิดจากอาการครรภ์เป็นพิษ ดังนั้นคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ควรจะ
หมั่นสังเกตตัวเองว่าเป็นแค่อาการบวมธรรมดาหรือว่าบวมจากสาเหตุอื่น จะได้รักษาตาม
อาการได้ทันท่วงที
วิธีลดอาการบวมของขา มีด้วยกันหลายวิธีดังนี้
- ไม่ควรยืนหรือเดินติดต่อกันเป็นเวลานานๆ ควรหาเวลานั่งพักเท้าบ้าง
- ถ้าต้องนั่งเป็นเวลานานๆ ควรหาเก้าอี้มาวางขาให้ยกสูงขึ้นในแนวราบเพื่อให้เลือดไม่ลง
ไปที่ขามากเกินไป และควรหาเวลาเปลี่ยนอิริยาบถไปทำอย่างอื่นบ้าง ที่สำคัญไม่ควรนั่ง
ไขว่ห้าง นั่งขัดสมาธิ นั่งพับเพียบ เป็นเวลานานๆ
- ควรสวมเสื้อผ้าที่ไม่รัดรูปจนเกินไป คุณแม่ท่านไหนที่ต้องการใส่กางเกงก็ควรเลือกผ้าที่
ยืดได้ ไม่ควรใส่พวกผ้ายีนเพราะมันจะรัดแน่นจนเลือดที่ไหลไม่สะดวกอยู่แล้วยิ่งไหลไม่ได้
ทำให้ขาบวมได้ง่าย
- ถ้าเกิดมีอาการขาบวมปวดขาเกิดขึ้น สามารถใช้วิธีแช่ขาในน้ำอุ่นก่อนนอนทุกวันก็จะช่วยลด
อาการขาบวมลงได้
- ถ้าไม่มีเวลาแช่น้ำอุ่น ก็ใช้วิธีหาผ้า หมอน หรืออะไรก็ได้มาวางรองใต้ขา เพื่อให้ขายก
สูงขึ้นเลือดจะได้ไหลเวียนได้สะดวก
ตัวอย่างประสบการณ์ของคุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีอาการเท้าบวม
ตอนนี้ท้องช่วงแรกๆจนถึง 7 เดือน ไม่มีอาการอะไรเลย แข็งแรงปกติ เดินทำงานได้ทั้งวัน
แต่พอเริ่มเข้าสู่เดือนที่ 8 เริ่มรู้สึกว่าเท้ามาหนาๆขึ้น สามีก็ชอบแซวว่าขาใหญ่นะ แต่ปกติ
ก่อนท้องเราก็ขาใหญ่อยู่แล้วและสามีก็ชอบแซวเป็นปกติ ตอนแรกจึงไม่ได้คิดอะไร เราก็
ทำงานตามปกติ ตอนนอนก็ไม่ได้หาอะไรรองใต้ขาเลย มีแค่ใช้หมอนคนท้องของ
Mumpillow รองท้องกับหลังเท่านั้น พอดีวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมาเป็นวันหยุดก็เลยชวนสามี
ทำความสะอาดบ้านกัน เราใส่กางเกงคนท้องขายาวอยู่ ตอนทำความสะอาดบ้านจึงดึงขา
กางเกงขึ้นมาไว้ตรงเข่า ซึ่งมันรู้สึกรัดมาก แต่เราก็ไม่ได้เอะใจอะไร เพราะไม่เคยคิดว่าตัว
เองจะขาบวมเลย ทำความสะอาดบ้านทั้งวันจนดึกเลย วันนั้นได้นอนตอนตีสอง พอกำลัง
จะนอนเราจะนั่งขัดสมาธิสวดมนต์ก่อน ก็เลยเห็นว่าขาบวมเป่งเลย มันนูนขึ้นมาจนเห็นได้
ชัดเลยตกใจมาก นึกว่าตัวเองเป็นเบาหวานซะแล้ว เพราะเข้าใจว่าคนที่บวมคือคนที่เป็น
เบาหวานขณะตั้งครรภ์ แต่เราบวมแค่เฉพาะส่วนขานะ พอดีว่าอีก 2 วันตรงกับวันที่คุณหมอ
นัดตรวจครรภ์พอดี เราก็เลยรอถามคุณหมอทีเดียวเลย โชคดีที่ไม่เป็นอะไรมากคุณ
หมอบอกว่าเป็นอาการปกติทั่วไป ให้เราหานอนยกขาสูงกว่าเดิมก็จะช่วยได้ เราก็เลยเอาขา
วางบนหมอนคนท้องซะเลย เพราะมันสูงใหญ่ดี ลองเอาหมอนอื่นมาวางแล้วขามันไม่ค่อย
ยุบลงเลยสงสัยว่ามันยังไม่สูงพอ เลยใช้หมอนที่เอารองท้องไว้มาวางรองขาด้วย มันก็ดี
ขึ้นนะยุบลงเยอะ คุณหมอบอกต่อไปต้องคอยระวังอย่าให้ขาบวมบ่อยๆ เรื่องของเราก็มี
เท่านี้ค่ะ
หน้าที่เข้าชม | 2,058,180 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 1,820,797 ครั้ง |
ร้านค้าอัพเดท | 5 ก.ย. 2568 |