ดูแลคนท้อง ด้วยสมุนไพรให้กลิ่นหอม ต้องระวัง

คุณแม่ตั้งครรภ์ ย่อมมี อาการ อารมณ์ และมีความต้องการ อาหาร ที่แตกต่างไปจากปกติ ซึ่งเรื่องเหล่านี้ จำเป็นจะต้องใส่ใจให้ดี และบางทีคนที่อยู่รอบข้างก็ต้องศึกษา วิธีดูแลคนท้อง ที่เหมาะสมให้มากขึ้นด้วย 

ในยามตั้งครรภ์การดูแลหรือบำบัดอาการที่คุณแม่รู้สึกมีอาการไม่ดีมีหลายอย่างตั้งแต่การนวด การออกกำลังกาย หารใช้อาหาร หรือที่เรียกว่าโภชนาการบำบัด คือ การใช้จุดเด่นของอาหารหรือสมุนไพรแต่ละชนิดช่วยแก้ไขอาการแทนการใช้ยา และอีกอย่างที่นิยมทำกันก็คือ การใช้กลิ่นบำบัด หรือที่เรียกว่า Aromatherapy เป็นการใช้กลิ่นหอมในการรักษาอาการไม่สบายต่างๆ เป็นศาสตร์ที่มีมานานหลายพันปี และในปัจจุบันก็ได้รับการพิสูจน์ว่ามันใช้ได้ผล และสามารถช่วยคุณแม่ตั้งครรภ์ให้รู้สึกดีขึ้นได้ อาทิเช่น

การใช้กลิ่นดอกมะลิ ช่วยเพิ่มความสดชื่น ละทำให้เกิดความสงบ ในช่วงที่คุณแม่ตั้งครรภ์รู้สึกว่ามีอารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย การใช้กลิ่นมะนาว หรือ กลิ่นของส้ม ช่วยลดอาการคลื่นไส้แพ้เนื่องจากการแพ้ท้อง ที่เกิดขึ้นบ่อยๆ ในการตั้งครรภ์ช่วงไตรมาสแรก การใช้กลิ่นดอกลาเวนเดอร์ช่วยทำให้เกิดความผ่อนคลาย และหลับได้ง่าย แบบนี้เป็นต้น ซึ่ง ส่วนใหญ่เราจะใช้น้ำมันหอมระเหยที่สกัดออกมา หรือไม่ก็เป็นการใช้สมุนไพรสดหรือแห้งมาทำให้เกิดกลิ่น

อย่างไรก็ตาม การใช้กลิ่นเหล่านี้ไม่ใช่ว่าใช้ได้ทั้งหมด เหมือนคนที่ไม่มี อาการท้อง เนื่องจากบางกลิ่นก็อาจเป็นกลิ่นที่ทำให้แสลงต่อการตั้งครรภ์ได้เช่นกัน อาทิเช่น กลิ่นดอกโรสแมรี่ ไม่เหมาะที่จะใช้กับคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ในช่วงไตรมาสแรก เนื่องจากมันกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตมากเกินไป  กลิ่นโหระพา ไม่ควรใช้กับคุณแม่ในช่วงให้นมบุตร หรือกลิ่นดอกคาโมไมล์ ที่ทำให้เกิดการระคายเคืองได้เมื่อสัมผัสน้ำมันโดยตรง หรือใช้ในปริมาณเข้มข้นสูง

ดังนั้น ในการจะ  ดูแลคนท้อง ด้วยการใช้กลิ่น เราจะต้องเลือกใช้อย่างเหมาะสมและมีความระมัดระวัง และหากไม่แน่ใจ ก็ควรใช้ในปริมาณน้อย และใช้ห่างๆ แค่พอให้ได้กลิ่นก็เพียงพอ ไม่ควรนำมาโดนผิวโดยตรง อย่างไรก็ตามส่วนใหญ่มีความปลอดภัย