ท่านอนที่ถูกต้องสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์

ท่านอนคนท้อง ที่ดีที่สุด?

          ผู้หญิงตอนไม่ท้องจะนอนท่าไหนก็ได้  แต่ตอนท้องนี่สิ  สุดแสนจะกังวลใจ  จะนอนจะนั่งก็ต้องมีท่านั่งท่านอน ท่านี้ก็ไม่ได้ ท่าโน้นก็ไม่ดี ยิ่งมีที่ปรึกษาเยอะๆ คนนั้นว่าอย่างนี้คนนี้ให้นอนท่านั้น แต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน  วันนี้เรามีคำตอบมาให้สำหรับคำถามที่ว่าท่านอนคนท้องท่าไหนดีที่สุด

          นอนตามที่คุณแม่นอนแล้วสบายเลยค่ะ  ส่วนใหญ่คุณหมอก็ไม่ได้ห้ามหรอกค่ะ  คุณหมอจะแนะนำว่าคุณแม่นอนท่าไหนแล้วหลับสบายก็นอนท่านั้นแหละค่ะ  แต่ที่เค้าบอกว่าควรนอนตะแคงซ้ายแล้วจะดี  ก็เพราะตามหลักสรีระภายในของร่างกายคนเรานั้น  ควรนอนตะแคงซ้ายเวลาท้องเพราะเมื่อดูตามสรีระแล้วไม่ได้ไปกดทับส่วนสำคัญใดๆในร่างกายคุณแม่  ก็เท่านั้นเองค่ะ

 
          ถ้าคุณแม่นอนตะแคงซ้ายแล้วไม่ถนัด  หรือนอนตะแคงซ้ายแล้วเมื่อย  ลองใช้วิธีเอาหมอนมาหนุนหลังแบบดันไว้ค่ะ  แล้วก็หาหมอนข้างใบเล็ก ๆ หนีบรองขาตรงหัวเข่าไว้เวลานอนตะแคง  พอมีหมอนมาดันหลังไว้จะทำให้สบายขึ้นเหมือนจะแอบหงายมาทับหมอนได้นิดหนึ่งไม่เมื่อยมาก  ยิ่งตอนท้องแก่ใกล้คลอดจะยิ่งปวดก้นกบต้องมีหมอนเล็กหนุนหลังค่ะ จะได้ไม่ต้องตะแคงสุดตัวเกินไป  วิธีนี้ใช้ได้ทั้งการนอนตะแคงซ้ายและขวาเลยค่ะ  ส่วนนอนหงายไม่ค่อยแนะนำให้นอนนานๆเพราะจะทำให้คุณแม่รู้สึกอึดอัดได้  ยิ่งคุณแม่ที่มีขนาดท้องที่ใหญ่มากๆนะคะ 

          ข้อมูลด้านล่างนี้จะอธิบายเกี่ยวกับสรีระร่างกายของคุณแม่กับท่านอนว่าเป็นอย่างไรนะคะเสียดท้องน้อย  นอนลำบาก  เพราะมดลูกโต

          ตอนตั้งท้อง  รูปร่างทรวดทรงของคุณแม่ก็ต้องเปลี่ยนแปลงไป  จากมีเอวอ้อนแอ้นกลับ  กลายเป็นทรงชมพู่  จะนั่งจะนอนอะไรมันก็ดูลำบากกว่าเดิมไปหมด  และหากท่านอนไม่ดี ก็อาจจะมีผลต่อตัวคุณแม่และลูกในท้องได้เหมือนกัน  เมื่อตั้งท้องมดลูกก็จะโตขึ้นแล้วจะดึงรั้งปีกมดลูก เส้นเอ็นปีกมดลูกก็จะตึง มดลูกยิ่งโตเอ็นปีกมดลูกก็ยิ่งตึง ซึ่งปกติไม่ทำอะไรก็ตึงจะแย่อยู่แล้ว ช่วงท้องอ่อนๆ คุณแม่หลายๆคนจึงอาจมีอาการเสียดท้องน้อยทางด้านข้างได้บ่อยๆ  คือมีอาการเสียวแปลบๆที่ด้านข้างขาถึงท้องน้อย  ช่วงนี้หากล้มตัวลงนอน หรือลุกขึ้นจากที่นอนด้วยท่านอนที่ไม่ดีก็จะทำให้เจ็บเสียดท้องน้อยได้ง่าย


ท่านอนคนท้องอ่อนควรนอนหงาย

ปกติตอนที่ยังไม่ท้องเวลาจะลงนอนเราก็หงายหลังลงไปได้เลย เวลาจะลุกขึ้นก็ลุกขึ้นมาทื่อๆ ตรงๆ ได้เลย  ซึ่งท่าแบบนี้สำหรับคุณแม่ที่ตั้งอ่อนๆอยู่จะทำให้เกิดอาการเจ็บตึงปีกมดลูกมาก  ท่าที่ถูกวิธีในการล้มตัวลงนอนก็คือต้องตะแคงลงนอน ตะแคงลุกขึ้น เวลาลงนอนก็ต้องนั่งลงข้างเตียงก่อนแล้วเอามือวางไว้บนเตียง ตะแคงลงโดยใช้มือทั้งสองข้างช่วยรับน้ำหนัก จบท่านี้ก็จะนอนอยู่บนเตียงในท่านอนตะแคง จะนอนหงายก็ต้องพลิกตัวมาอีกทีค่ะ  ก่อนจะท้อง มดลูกมีขนาดแค่เท่าไข่ไก่ ซึ่งก็หนักเพียงแค่ไม่กี่ขีด แต่พอตอนท้องแล้วนั้น  มดลูกจะโตขึ้นเรื่อยๆ  น้ำหนักของตัวมดลูกเอง น้ำหนักของเด็กในท้อง  น้ำหนักรก  น้ำหนักน้ำคร่ำ  รวมๆกันแล้วหนักขึ้นเป็นหลายกิโล ดังนั้นตอนท้องอ่อนๆ ถ้านอนตะแคงข้างซ้าย มดลูกก็จะล้มถ่วงไปทางซ้ายแล้วไปดึงรั้งปีกมดลูกทางด้านขวาอีกที ถ้านอนตะแคงซ้ายทั้งคืน พอตื่นขึ้นมาก็จะเจ็บเสียดๆปีกมดลูกด้านขวา หากนอนตะแคงขวาทั้งคืนตื่นมาก็จะเจ็บเสียดท้องด้านซ้าย ตอนท้องอ่อนๆก็เลยให้นอนหงายธรรมดาสบายๆดีกว่า


ท่านอนคนท้องแก่ควรนอนตะแคง

ระหว่างที่มดลูกโตขึ้นเรื่อยๆปีกมดลูกก็จะตึงขึ้นเรื่อยๆเหมือนกัน เมื่อมดลูกเริ่มโตสูงขึ้นมาในช่องท้อง เราจะทำท่าอะไร มดลูกก็จะบิดซ้ายบิดขวาตามไปด้วย อยู่เฉยๆปีกมดลูกมันก็ตึงอยู่แล้ว ยิ่งบิดไปบิดมายิ่งตึงเจ็บใหญ่ ดังนั้นตอนท้องคุณแม่ก็ต้องทำตัวให้ลืมเอว เวลานอนพลิกไปพลิกมาก็ให้พลิกไปทีเดียวทั้งตัว แล้วตื่นขึ้นมาก็ไม่ต้องบิดขี้เกียจเหมือนเมื่อก่อน  บางครั้งแค่บิดทีเดียวอาจทำให้เจ็บปีกมดลูกไปอีกหลายวันเลยก็ได้  มดลูกของคุณแม่ก็จะโตขึ้นเรื่อยๆ จนประมาณ 28 สัปดาห์มดลูกจะโตจนยันด้านข้างของช่องท้องพอดี ตอนนี้มดลูกจะไม่ล้มไปล้มมาแล้ว จะนอนตะแคงซ้ายตะแคงขวาก็จะไม่ค่อยเจ็บปีกมดลูกเหมือนตอนท้องอ่อนๆ แต่ด้วยมดลูกที่โตขึ้นจะทำให้อึดอัดนอนลำบากมากขึ้น นอกจากนั้นเมื่อมดลูกโตขึ้นน้ำหนักของมันก็จะมากขึ้นตามไปด้วย ถ้านอนหงายน้ำหนักของมดลูกที่มากขึ้นก็จะไปกดทับลงบนเส้นเลือดใหญ่ทางด้านหลัง ทำให้เลือดไหลกลับเข้าสู่หัวใจน้อยลง เลือดก็ไหลออกไปเลี้ยงส่วนต่างๆน้อยลง โดยเฉพาะสมอง พอได้รับเลือดไปเลี้ยงน้อยลงก็จะทำให้มีอาการหน้ามืดเป็นลม พอลุกขึ้นก็จะดีขึ้นเอง  เอาเป็นว่าหลังจาก 28 สัปดาห์แล้วถ้านอนตะแคงจะไม่เจ็บปีกมดลูกมากนัก ให้นอนตะแคงเป็นหลักค่ะ




การนอนตะแคงซ้ายดีกว่าจริงหรือไม่

บางคนก็บอกว่าให้นอนตะแคงข้างซ้ายจะดีกว่า จริงๆมันก็ไม่แตกต่างกันมากนัก  ที่ให้นอนตะแคงด้านซ้ายก็ด้วยเหตุผลที่ว่าหัวใจของเราปกติมันจะอยู่ในทรวงอกค่อนไปทางซ้าย เส้นเลือดแดงใหญ่ที่ออกจากหัวใจก็จะออกจากทางด้านบนของหัวใจแล้วตีโค้งยาวลงมาข้างล่าง พออยู่ในช่องท้องก็จะอยู่ค่อนไปทางด้านขวา  หลายๆ คนเลยคิดว่านอนตะแคงไปทางขวาก็อาจกดทับเส้นเลือดใหญ่ได้ แต่ที่จริงมันก็เอียงไปทางขวานิดเดียวเอง นอนตะแคงด้านขวา หรือด้านซ้ายก็ไม่น่าจะแตกต่างกันสักเท่าไหร่  จะให้นอนตะแคงซ้ายหันหลังให้สามีตลอดยันคลอดมันก็ดูห่างเหินกันยังไงชอบกล  และที่สำคัญจะให้นอนตะแคงอยู่ท่าเดียวทั้งคืนก็คงไม่ได้  คงต้องมีพลิกซ้ายพลิกขวากันบ้าง  ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับแม่ท้องแก่ดังนั้นเวลาพลิกตัวก็ต้องคอยเอามือช่วยประคองท้องให้หมุนตามไปด้วย  แค่นี้ก็ไม่เจ็บแล้วค่ะ  ถ้าคุณแม่นอนตะแคงซ้ายแล้วไม่ถนัด  หรือนอนตะแคงซ้ายแล้วเมื่อย  ลองใช้วิธีเอาหมอนมาหนุนหลังแบบดันไว้ค่ะ  แล้วก็หาหมอนข้างใบเล็ก ๆ หนีบรองขาตรงหัวเข่าไว้เวลานอนตะแคง  พอมีหมอนมาดันหลังไว้จะทำให้สบายขึ้นเหมือนจะแอบหงายมาทับหมอนได้นิดหนึ่งไม่เมื่อยมาก  ยิ่งตอนท้องแก่ใกล้คลอดจะยิ่งปวดก้นกบต้องมีหมอนเล็กหนุนหลังค่ะ จะได้ไม่ต้องตะแคงสุดตัวเกินไป  วิธีนี้ใช้ได้ทั้งการนอนตะแคงซ้ายและขวาเลยค่ะ


การนอนตะแคงจะทับลูกรึเปล่า

คุณแม่หลายคนอาจสังเกตว่าลูกมักจะดิ้นเยอะตอนที่นอนตะแคงด้านใดด้านหนึ่ง  เลยสงสัยว่าไปนอนทับลูกหรือเปล่า  ขอชี้แจงก่อนว่า ลูกนอนอยู่ในถุงน้ำคร่ำ ถุงน้ำคร่ำก็จะมีน้ำคร่ำบรรจุอยู่ โดยน้ำคร่ำที่ว่านี้จะมีปริมาตรคงที่ตลอด ถ้านอนตะแคงด้านหนึ่ง  น้ำคร่ำก็จะไปปูดออกอีกด้านหนึ่ง  ซึ่งเนื้อที่ที่ลูกอาศัยอยู่นั้นจะคงที่ตลอดไม่เปลี่ยนแปลง  การนอนตะแคงจึงไม่ได้เป็นการนอนทับลูกอย่างที่สงสัยกัน  โดยปกติแล้วเด็กที่เกิดใหม่ๆ ก็มักจะชอบนอนคว่ำมากกว่านอนหงาย สังเกตว่าถ้านอนหงาย  เด็กจะมีอาการผวาบ่อยๆ  เด็กในท้องก็เหมือนกัน  เขาชอบนอนคว่ำมากกว่าหงาย แล้วเด็กในท้องก็มักจะนอนตะแคงตามกับตัวแม่ อาจหันหน้าไปทางซ้ายหรือทางขวาก็ได้ แต่โดยมากกว่าครึ่ง  ส่วนหลังของลูกจะอยู่ทางด้านซ้าย  และมักจะหันหน้าไปทางด้านขวา ถ้าแม่นอนตะแคงเอาขวาลงเด็กในท้องก็จะอยู่ในท่านอนคว่ำ ก็ถูกใจเขาเลย ไม่รู้สึกว่าลูกดิ้นเยอะสักเท่าไหร่  แต่ถ้าหมุนตัวไปตะแคงเอาซ้ายลง  ลูกก็อยู่ในท่านอนหงายเขาก็จะดิ้นมากกว่า  ซึ่งก็ไม่มีอันตรายต่อลูกแต่อย่างใด

ปวดหลัง เท้าบวม คนท้องนอนท่าไหนดี

คุณแม่บางคนพอท้องแก่ๆจะมีอาการบวม เป็นเพราะตอนท้อง ร่างกายของคุณแม่มีเลือดในร่างกายเพิ่มขึ้นมากกว่าตอนปกติกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ ปริมาณน้ำในร่างกายก็เพิ่มขึ้น ดังนั้นเวลาคุณแม่ยืนหรือเดินนานๆ น้ำในร่างกายก็จะไหลตามแรงโน้มถ่วงไปกองที่ขาเยอะ ในกรณีนี้เวลานอนควรหาหมอนมาหนุนใต้เข่าและขา ท่อนล่างลงไปให้สูงขึ้นก็จะช่วยลดอาการบวมของขาได้  แต่พอขายุบมือก็จะมาบวมแทน เพราะตอนนอนมือจะวางอยู่บนพื้นเตียงซึ่งจะต่ำกว่าขา ตื่นเช้ามาจะรู้สึกว่ามือมันหนาๆ กำไม่ลง บางคนจะมีอาการปวดที่ข้อมือได้ วิธีแก้คือ ต้องหาหมอนมารองมือไว้ทั้งสองข้าง หรือไม่ก็นอนเอามือวางบนพุง แต่อาการมือบวมแบบนี้ไม่มีอันตรายอะไร ตื่นขึ้นมาลุกเดินไปเดินมาไม่ถึงชั่วโมงมือก็จะหายบวมไปเอง แต่ถ้ามีอาการปวดข้อมือร่วมด้วย ให้หาผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นๆมาประคบสักหน่อยก็จะช่วยได้เยอะ  การเอาหมอนหนุนไว้ใต้เข่าก็ยังช่วยให้คุณแม่ที่มีอาการปวดหลังรู้สึกดีขึ้นด้วย เนื่องจากตอนตั้งครรภ์ มดลูกจะถ่วงโย้ไปข้างหน้า จึงไปดึงหลังให้แอ่นตามไปข้างหน้าด้วย กล้ามเนื้อหลังก็จะต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อรักษาสมดุลของร่างกาย  หากนอนราบแบนๆ โดยมากหลังก็ไม่ได้แตะลงบนพื้น  หลังจึงมักจะแอ่นขึ้นมาจากพื้นเล็กน้อย กล้ามเนื้อหลังก็เลยไม่ได้พักอย่างจริงจัง ให้ใช้หมอนหนุนใต้เข่าจะช่วยทำให้หลังได้พักมากขึ้น ซึ่งช่วยลดอาการปวดหลังได้

เครดิตจาก : นิตยสาร Modern Mom