กินปลาทำให้ฉลาด กินปลาดีต่อสุขภาพ เป็นเรื่องที่เราได้ยินติดหูได้ฟังกันอยู่บ่อยๆ และคนท้องก็มักได้รับคำแนะนำว่าควรทานปลา แต่มันก็มีคำถามอยู่ว่า มันเป็นอาหารที่เหมาะสมกับทุกช่วงของการตั้งครรภ์หรือไม่ ? เพราะก็อย่างที่ทราบกันว่า การตั้งครรภ์ในแต่ละช่วงมีความแตกต่างกัน มีเรื่องพัฒนาการของร่างกายคุณแม่ตั้งครรภ์ และพัฒนาการของทารกที่เปลี่ยนแปลงเป็นลำดับ ดังนั้นการทานปลาจะดีต่อทุกช่วงของ ระยะตั้งครรภ์ จริงๆ หรือ ? หรือว่ามีบางช่วงที่ควรงดเว้นบ้าง ?
สำหรับเรื่องนี้ เราต้องมาดูกันที่ประโยชน์ของเนื้อปลาเป็นอันดับแรก การที่เขาบอกว่า ทานปลาแล้วฉลาดนั้นก็เนื่องมากจาก ในเนื้อปลามีกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ DHA ซึ่งเป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวชนิดมีพันธะสายโซ่ยาว เจ้ากรดไขมันชนิดนี้เป็นส่วนประกอบสำคัญของเยื่อหุ้มเซลล์สมอง และจอประสาทตา มีส่วนในการเพิ่มการเชื่อมต่อสื่อสารของระบบเส้นประสาทในสมอง ทำให้มีความจำดีขึ้น สมองมีการพัฒนา จึงเป็นที่มาของคำบอกเล่าที่ว่าทานปลาแล้วฉลาด
แต่ไม่ใช่ปลาทุกชนิดที่จะมีกรดไขมันนี้อยู่ มันจะพบมากในปลาทะเล เช่น ปลาทู ปลาแซลมอน และปลาทูน่า และมีมากในปลาน้ำจืดที่มีไขมันสูง เช่นปลาสวาย ซึ่งจะมี DHA อยู่สูง รวมถึงพวกปลาช่อน ปลาตะเพียน ปลาดุก ก็มี DHA ด้วยเช่นกัน
แต่อย่างไรก็ดี การทานโปรตีนมากๆ ก็เป็นภาระต่อร่างกาย โปรตีนที่เกินทำให้ไตทำงานหนักเพื่อทำการขับออก หากทานมากเกินไปก็ไม่ดีต่อสุขภาพ ปริมาณที่แนะนำให้คุณแม่ตั้งครรภ์ทานก็อยู่ที่ประมาณ 1000 – 15000 มิลลิกรัมต่อวัน อยู่ในระดับพอเหมาะ และควรทานแค่สัปดาห์ละ 4 ครั้ง เท่านั้น ไม่ใช่ทานทุกมื้อ
ระยะตั้งครรภ์เดือนแรก อาจจะทานอยากหน่อย เพราะปลามีกลิ่นคาว แต่แนะนำให้ทานเนื่องจากสามารถช่วยเสริมสร้างสมองและประสาทของของตัวอ่อนที่เริ่มพัฒนาขึ้น ให้ทานทีละน้อยๆ ไม่ต้องมาก เพราะมันแสลงต่ออาการแพ้ท้องของคุณแม่ได้เนื่องจากกลิ่นคาว
ดังนั้นการทานเนื้อปลา สามารถทานได้ตลอด การตั้งครรภ์ 1-9 เดือน เพียงแต่ต้องจำกัดปริมาณให้พอดี ไม่มากเกินไป และควรทานอาหารให้หลากหลาย กรดไขมันดีนอกจากในปลาก็ยังมีในพืชอีกหลายชนิด การทานอาหารที่หลากหลายจะให้สารอาหารที่ครบถ้วนมากกว่าการมุ่งเน้นอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งก็อย่างที่บอกไปแล้วว่าทานมากไปก็ไม่ใช่เรื่องที่ดี
หน้าที่เข้าชม | 2,058,180 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 1,820,797 ครั้ง |
ร้านค้าอัพเดท | 5 ก.ย. 2568 |