ช่วงสุดท้ายของการตั้งครรภ์ไตรมาสที่ 2 หรือ ช่วงการตั้งครรภ์เดือนที่ 6 เป็นช่วงที่คุณแม่จะสามารถรู้สึกได้อย่างชัดเจนถึงพัฒนาการของการตั้งครรภ์ ทั้งจากขนาดที่ใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว และจำนวนการดิ้นของทารกในครรภ์ ที่ลูกจะมีการดิ้นที่บ่อยครั้งขึ้น ดิ้นแรกมากขึ้น ทารกในช่วงนี้จะมีขนาดร่างกายโดยเฉลี่ยวัดความยาวของลำตัวจากศีรษะไปถึงก้นได้ประมาณ 30 เซนติเมตร และมีน้ำหนักตัวโดยเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 800 กรัม ทารกมีความแข็งแรงมากขึ้น ดังนั้นการดิ้นแต่ละครั้งจึงมีความแรงมากขึ้น รู้สึกได้ชัดเจน จนบางครั้งการดิ้นของทารกในเดือนที่ 6 นี้ จะทำให้คุณแม่เกิดความรู้สึกเจ็บและมีอาการท้องเกร็ง หรือที่เรียกกันโดยทั่วๆ ไปว่า “ท้องแข็ง” เกิดขึ้นได้บ้าง ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องที่ปกติของ ระยะตั้งครรภ์ ในช่วงนี้
อาการที่มักพบในคุณแม่ช่วงการตั้งครรภ์เดือนที่ 6
1. 1. มีการเพิ่มขึ้นของน้ำหนักตัวที่รวดเร็ว โดยทั่วไปอยู่ที่ 500 กรัม ต่อสัปดาห์ แต่ไม่ต้องเป็นกังวลมากในเรื่องน้ำหนักเกิน เพราะน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นมาจากตัวทารกและปริมาณน้ำคร่ำที่มากขึ้นจากการขยายตัวของมดลูกด้วย
2. 2. มีอาการปวดเสียดบริเวณชายโครงเกิดจากขนาดของครรภ์ที่ใหญ่ขึ้นไปดันบริเวณชายโครง ไม่ต้องกังวลนี่เป็นเรื่องธรรมดา
3. 3. อาการเสียดที่บริเวณท้องน้อย เกิดจากการหดเกร็งของมดลูก ส่วนมากพบในเวลาที่คุณแม่เปลี่ยนท่าทางอย่างรวดเร็ว ทำให้มดลูกได้รับแรงกระเทือน ทำให้เกิดอาการหดเกร็งได้
4. 4. อาการเป็นตะคริวบ่อย ส่วนมากเกิดในช่วงกลางคืน เชื่อว่ามาจากการขาดสารแคลเซียม ที่ในช่วงนี้จะถูกดึงไปสร้างความแข็งแรงให้กับกระดูกของทารกเป็นจำนวนมาก คุณแม่ควรทานอาหารที่มีแคลเซียมสูงเพิ่มขึ้น อาการเป็นตะคริวส่วนใหญ่จะเป็นในบริเวณ ขา น่อง และเท้า ซึ่งเป็นจุดที่ต้องรองรับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของคุณแม่นั่นเอง
นี่เป็นอาการที่มักพบใน ระยะตั้งครรภ์ 6 เดือนซึ่งเป็นอาการปกติ แต่ที่ควรระวังและเอาใจใส่ก็คือ อาการแทรกซ้อนต่างๆ อย่างอาการเบาหวานขณะตั้งครรภ์ ความดันสูง หรือครรภ์เป็นพิษ รวมถึงการอักเสบของระบบทางเดินปัสสาวะที่หากเกิดขึ้นจะทำให้เกิดการติดเชื้อ
ภาพประกอบจาก : all-free-download.com
หน้าที่เข้าชม | 2,058,180 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 1,820,797 ครั้ง |
ร้านค้าอัพเดท | 5 ก.ย. 2568 |