อาการบวมที่เท้าและที่ขาใน คุณแม่ตั้งครรภ์ เกิดขึ้นได้และพบได้เป็นปกติ เรียกว่าคุณแม่ในช่วงตั้งครรภ์นี้แทบทุกคน เคยมีอาการเท้าบวม มือบวม หรือตัวบวมมาแล้วแทบทั้งสิ้น ส่วนมากพบในช่วงการตั้งครรภ์ระยะ 6 เดือน ขึ้นไป หรือเข้าสู่ช่วงไตรมาศสุดท้ายก่อนครบกำหนดคลอด แต่... ก็อย่าได้นิ่งนอนใจ เพราะอาการบวมที่เกิดขึ้นนั้น นอกจากเป็นอาการปกติที่พบได้ทั่วไปแล้วยังมีอาการบวมแบบที่ไม่ปกติ ที่เป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงโรคที่กำลังเกิดขึ้นได้อีกด้วย
สาเหตุของอาการเท้าบวม เกิดจาก...
1. ขนาดของมดลูกขยายตัว ไปกดเอาเส้นเลือดใหญ่ ทำให้การไหลเวียนของเลือดไม่สะดวกทำให้เกิดอาการเท้าบวม ขาบวม ซึ่งนั่นเป็นสาเหตุที่ว่า เหตุใดจึงพบอาการเท้าบวมส่วนใหญ่ในช่วงไตรมาสสุดท้าย ก็เนื่องมาจากช่วงนี้ครรภ์มีขนาดใหญ่ขึ้นจนรบกวนระบบการไหลเวียนของเลือดนั่นเอง
2. การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกายคุณแม่ทำให้ร่างกายมีอาการบวม
3. คุณแม่ทานอาหารที่มีรสเค็มมากไป เกลือที่เข้าไปในร่างกายจะทำการดูดน้ำมาไว้ใต้ผิวหนังทำให้มีอาการบวมขึ้น และยังรบกวนการทำงานของไตในการขับของเสียออกจากร่างกายอีกด้วย
4. คุณแม่เดินมาก หรือยืน -นั่ง อยู่ในท่าเดิมนานๆ อันนี้มักพบในคุณแม่ที่ต้องทำงานหรือมีกิจกรรมที่ต้องอยู่ในท่าเดิมเป็นประจำ
5. อาการครรภ์เป็นพิษ ! อันนี้คืออาการบวมที่ไม่ปกติ ซึ่งจะต้องรีบพบแพทย์เพื่อทำการรักษาแก้ไข
อาการบวมที่ไม่ปกติ และเป็นสัญญาณของการเกิดโรคอาการครรภ์เป็นพิษ ที่ต้องคอยสังเกตก็คือ มีอาการบวมขึ้นเร็วผิดปกติ คือจู่ๆ ก็บวมขึ้นมา ทั้งเท้า ขา ใบหน้ามือ ปัสสาวะได้น้อยลง มีอาการปวดจุกที่ลิ้นปี่ มีอาการปวดศีรษะ ตาพร่า มองเห็นแสงวาวเป็นจุดๆ เหล่านี้เป็นสัญญาณของอาการครรภ์เป็นพิษ ซึ่งต้องรีบไปพบแพทย์ เพื่อตรวจหาสาเหตุ และรีบทำการรักษา
แต่โดยทั่วไปอาการของ แม่ตั้งครรภ์เท้าบวมมักไม่เป็นอันตรายจะหายไปเองหลังการคลอด แต่ถึงอย่างไรก็ขอให้คอยสังเกตความผิดปกติไว้ อย่าได้ปล่อยปละละเลย ระวังเอาไว้ดีกว่า เพื่อสุขภาพของคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์
หน้าที่เข้าชม | 2,058,180 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 1,820,797 ครั้ง |
ร้านค้าอัพเดท | 5 ก.ย. 2568 |