ในช่วงตั้งครรภ์ คุณแม่ต้องการการดูแลด้านสุขภาพเป็นพิเศษ เนื่องจากหากว่าคุณแม่ไม่สบายหรือมีอาการผิดปกติ บางอาการจะส่งผลกระทบไปถึงลูกน้อยในครรภ์ด้วย จึงเป็นเรื่องที่ห่วงกังวลกันมากเมื่อคุณมีมีอาการผิดปกติอย่างหนึ่งอย่างใด หรือมีอาการไม่สบายเกิดขึ้น ยิ่งในช่วงฤดูใน ที่มีฝนตกบ่อย อากาศค่อนข้างแปรปรวน เดี๋ยวร้อยเดี๋ยวเย็น ยิ่งเป็นช่วงที่คุณแม่ต้องรักษาสุขภาพเป็นพิเศษ เพราะช่วงนี้เป็นช่วงที่เสี่ยงต่อการป่วยไข้ได้ง่าย และหากว่าไม่สบายแน่นอนว่าสุขภาพโดยรวมไม่ดีแน่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจที่หายใจได้ลำบากขึ้น แต่ในขณะตั้งครรภ์คนท้องต้องการอากาศมากกว่าปกติ และมีอาการไม่สบายเนื้อสบายตัวทำให้ แม่ตั้งครรภ์นอนไม่หลับซึ่งก็จะส่งผลเสียตามมาในเรื่องความแข็งแรงและพัฒนาการของลูกน้อยได้
อาการเป็นหวัด แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ นั่นก็คือ
1. 1. เป็นไข้หวัดธรรมดา การเป็นไข้หวัดแบบนี้จะมีผลกระทบต่อทารกไม่มากนัก แต่หากว่าคุณแม่มีไข้สูง อาจจะทำให้ลูกน้อยมีอาการเป็นไข้ตามไปด้วย และอาจมีอาการหัวใจเต้นเร็ว หรือคุณแม่มีอาการไอร่วมด้วยก็จะไปทำให้มดลูกบีบตัวเลาที่ไอ ซึ่งแน่นอนว่าส่งผลกระทบถึงทารกในครรภ์แน่นอน
2. 2. เป็นไข้หวัดใหญ่ ซึ่งคุณแม่จะมีไข้สูง อาจมีการอาเจียนและไม่สามารถรับประทานอะไรลงไปได้อยู่ช่วงหนึ่ง ซึ่งแน่นอนว่าส่งผลต่อพัฒนาการของทารกแน่นอน เพราะได้รับสารอาหารไม่เต็มที่ แต่ในปัจจุบันกระทรวงสาธารณะสุขได้มีโครงการฉีดวัคซีนป้องกันให้กลุ่มเสี่ยง ซึ่งคุณแม่ตั้งครรภ์เป็นหนึ่งในกลุ่มเสี่ยงที่จะได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ให้ แต่ก็ป้องกันได้เฉพาะบางสายพันธุ์อันตรายจากไข้หวัดใหญ่นั้นขึ้นอยู่กับความต้านทานของแต่ละคน ที่น่าเป็นห่วงก็คือ มันสามารถทำให้เกิดอาการแทรกซ้อนเช่นอาการติดเชื้อในปอด ซึ่งแน่นอนว่าหากร่างกายคุณแม่มีอาการป่วยมากลูกน้อยย่อมเป็นอันตรายตามไปด้วย แต่เชื้อไข้หวัดใหญ่ทั่วไปจะไม่ติดไปหาลูกผ่านทางรก แต่จะเป็นการติดเชื้อที่มากับระบบทางเดินหายใจของคุณแม่
ดังนั้นหากเริ่มอาการรู้สึกตัวว่า แม่ตั้งครรภ์เป็นหวัด ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย หากเป็นหวัด หรือไข้หวัดธรรมดาก็ให้พักผ่อนมากๆ ก็จะดีขึ้นภายในเวลา 1 สัปดาห์
ภาพประกอบจาก : ylhealth.org
หน้าที่เข้าชม | 2,058,180 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 1,820,797 ครั้ง |
ร้านค้าอัพเดท | 5 ก.ย. 2568 |