พัฒนาการทารกในครรภ์ 5 เดือน กับอาการของคุณแม่ตั้งครรภ์ที่ควรทราบ

เมื่อเข้าสู่ช่วงสัปดาห์ที่ 20 หรือ คุณแม่มีอายุครรภ์ได้ 5 เดือน ช่วงนี้เป็นช่วงที่ลูกน้อยในครรภ์จะมีน้ำหนักได้ประมาณ 500 กรัม หรือ ประมาณ 1 ใน 6 ของน้ำหนักตัวตอนคลอดแล้ว และจะมีความยาวของร่างกายวัดจากส่วนศีรษะของ เด็กในครรภ์ ไปจนถึงก้นยาวประมาณ 19 เซนติเมตร

พัฒนาการของทารก ที่เด่นชัดเจนในช่วงนี้คือ

1.      1. การเคลื่อนไหว ลูกจะมีการดิ้นและขยับตัวให้คุณแม่ได้รู้สึกมากขึ้นกว่าช่วงที่แล้วๆ มา ทั้งนี้นอกจากเป็นเพราะร่างกายมีอวัยวะครบสมบูรณ์ดี และมีขนาดของลำตัวใหญ่มากขึ้นแล้ว ยังเป็นเพราะ ทารกมีพัฒนาการของกล้ามเนื้อและระบบประสาทที่ทำงานสอดคล้องตอบสนองกันมากขึ้น ทำให้สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่ว การเตะ ถีบ และกำมือแบบมือทำได้อย่างสมบูรณ์

2.      2. พัฒนาการในช่องปาก ทารกในช่วงนี้มีการก่อของฟันน้ำนมขึ้นใต้บริเวณเหงือกแล้วพร้อมๆ กับประสาทในการรับรส ในช่วงอายุครรภ์ 5 เดือน นี้ ทารกสามารถแยกแยะรสหวานและขมได้แล้ว

3.      3. เพศ สามารถสังเกตเห็นเพศได้ชัดเจน ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องการทราบเพศของลูกสามารถไปตรวจด้วยการอัลตร้าซาวด์ได้แล้วในช่วงนี้

นี่เป็นพัฒนาการของทารกที่เด่นชัดในช่วงนี้ แต่นอกจากนี้ก็ยังมีพัฒนาการด้านอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งก็เป็นไปโดยธรรมชาติ ที่น่าสนใจและต้องดูแลอีกอย่างก็คือ สุขภาพของคุณแม่ ซึ่งเมื่อเข้าสู่ช่วงนี้ คุณแม่จะมีอาการต่างๆ ที่แตกต่างไปจากเดิมบ้าง

อาการของคุณแม่ ระยะตั้งครรภ์ 5 เดือน

1.      1. คุณแม่ขี้ร้อน คนท้องช่วงนี้จะขี้ร้อนและมีเหงื่อออกมา เนื่องมาจากการทำงานของต่อมไทรอยด์ที่มีการทำงานมากขึ้น ทำให้ระบบการเผาผลาญในร่างกายผิดปกติไป คุณแม่จึงขี้ร้อนและมีเหงื่อออกง่าย

2.      2. กระเพาะปัสสาวะมีโอกาสอักเสบได้ง่าย เนื่องมาจากกล้ามเนื้อในระบบทางเดินปัสสาวะเกิดการหย่อนตัวลง เพื่อเตรียมความพร้อมของร่างกายเพื่อรองรับการขยายของมดลูกที่กำลังจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

3.      3. มีอาการกรดไหลย้อย และอาการท้องผูกได้ง่าย

4.      4. เป็นตะคริวบ่อย โดยเฉพาะในช่วงเวลากลางคืน ควรรับประทานแคลเซียมเสริม จะช่วยลดอาการนี้ลงได้

นี่เป็น พัฒนาการทารกในครรภ์ 5 เดือนกับอาการของคุณแม่ตั้งครรภ์ที่ควรทราบและอีกอย่างที่ต้องใส่ใจคือ การดิ้นของทารก ที่คุณแม่ต้องคอยสังเกตจังหวะและช่วงเวลาความถี่ในการดิ้นให้ดี เพราะนั่นเป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่บอกให้ทราบถึงวามแข็งแรงและสุขภาพของลูกน้อยได้