มีเลือดออกใน ระยะตั้งครรภ์ 3 เดือน แรก

ช่วง 1-3 เดือน หรือที่เรียกว่า ช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์นั้น เป็นช่วง ระยะตั้งครรภ์ ที่อยู่ในช่วงลุ้น ทั้งตื่นเต้น ยินดี และอาจจะมีอาการตกใจ ระทึกขวัญได้เมื่อเกิดมีเหตุผิดปกติขึ้น เพราะ การที่มีปัญหาในช่วงระยะแรกนี้ อาจหมายถึงการตั้งครรภ์ล้มเหลวก็เป็นไปได้ !

อาการเลือดออกจากช่องคลอดในช่วง ไตรมาสแรก เป็นอาการที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ในราว 25% ของหญิงตั้งครรภ์ทั้งหมด ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น...

1.       เลือดออกเนื่องจากการที่ตัวอ่อนฝังตัวในมดลูก ซึ่งอาจจะมีเลือดออกเล็กน้อย แต่จะหายไปเองและไม่มีอาการเจ็บปวด

2.       รกเกาะต่ำ เกิดจากความผิดปกติของการสร้างตัวของรก และมักเกิดในผู้ที่เคยผ่าตัดมดลูกมาก่อน

3.       อาการมดลูกอักเสบ ซึ่งหากไม่ร้ายแรงมากนักก็จะหายไปเอง แต่ถ้ามีอาการเจ็บร่วมด้วยต้องรีบไปพบแพทย์

4.       ตั้งครรภ์ไข่ปลา คือ ไม่ได้มีการตั้งครรภ์จริง แต่เป็นการเติบโตขึ้นของเนื้อเยื่ออื่นที่ผิดปกติ ต้องรีบรักษาด้วยการขูดมดลูก

5.       การตั้งครรภ์นอกมดลูก เป็นอาการที่ร้ายแรงอย่างหนึ่ง เกิดจากการที่ตัวอ่อนฝังตัวก่อนที่จะเข้าไปถึงโพรงมดลูก ต้องรีบปรึกษาแพทย์ด่วน หากทิ้งเอาไว้ อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตจากการตกเลือดภายใน

6.       การแท้งลูก ในช่วงการตั้งครรภ์ระยะแรก โอกาสที่จะแท้งมีอยู่ หากมีอาหารเลือดออกจากช่องคลอด มีอาการปวดและมีเนื้อเยื่อหลุดออกมา แสดงถึงการแท้งบุตร เนื่องจากความไม่สมบูรณ์ของการตั้งครรภ์ ควรรีบไปปรึกษาแพทย์ และอย่าลืมนำเนื้อเยื่อนั้นไปให้แพทย์ตรวจด้วย ที่ต้องระวังอีกอย่างคือเนื้อเยื่อออกมาหมดแล้ว หรือยังเหลือตกค้างอยู่ภายใน หากมีเนื้อเยื่อค้างอยู่อาจจะทำให้เลือดออกไม่หยุด อาจจะต้องรักษาอาการด้วยการขูดมดลูก การแท้งลูกในช่วงนี้เป็นกลไกตามธรรมชาติ เกิดจากการขับตัวอ่อนที่ไม่สมบูรณ์ออกจากร่างกาย ส่วนมากเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นๆ ของการตั้งครรภ์เมื่อเข้าสู่ ระยะตั้งครรภ์ 4 เดือน ไปแล้วความเสี่ยงก็จะลดลง เพราะตัวอ่อนที่ผ่านช่วงแรกมาได้จะมีความแข็งแรง และแสดงถึงความพร้อมในการมีชีวิตรอดมากขึ้น

การที่มีเลือดออกใน ระยะตั้งครรภ์ 3 เดือนแรกต้องใส่ใจมากเป็นพิเศษแต่อย่าพึ่งวิตกกังวลมากไป อาจะเป็นแค่อาการธรรมดาที่ไม่มีอันตรายก็ได้ แต่อย่างไรก็ตามควรปรึกษาแพทย์ เพื่อให้ตรวจดูให้ละเอียด